ตายเพราะไม่ตาย
นางจู เลีย คาร์สัน สาวใหญ่วัยกลางคนประชากรแห่งมหานครนิวยอร์กได้ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคหัวใจที่ รุมเร้าร่างกายอันบอบบางของเธอมานานปี จนกระทั่งอาการดังกล่าวกำเริบจนญาติๆและลูกสาวของเธอต้องหามเธอส่งโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้วชาญอย่างใกล้ชิดแต่ดูเหมือนว่ากำลังใจจาก คนรอบข้างไม่ได้ช่วยให้เธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแม้แต่น้อย เธออ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนเช้าวันหนึ่งอาการของเธอเข้าขั้นวิกฤตและตกบ่ายคณะแพทย์ของโรงพยาบาลที่ทำ การรักษาเธอนั้นก็ได้ลงความเห็นเช่นเดียวกันหมดว่าเธอได้สิ้นลมเสียแล้ว
จูลี่ คาร์สัน ลูกสาวของเธอร่ำไห้ต่อการจากไปของมารดาและได้ประกอบพิธีศพให้อย่างเต็มกำลัง (ทรัพย์) ที่มีในกระเป๋าโลงงดงามอันเป็นบ้านหลังสุดท้ายถูกตกแต่งอย่างสมเกียรติและ ระหว่างการประกอบพิธีอยู่นั่นเอง จู่ๆนางจูเลียผู้ล่วงลับก็ลุกพรวดขึ้นจากโลง!!! ผลที่ตามมาน่ะหรือครับ...จูลี่ลูกสาวของเธอ... ช็อกตายล้มตึงอยู่หน้าโลงของแม่ชนิดซื้อมาไม่ได้เสียเปล่าเลยครับ พอแม่ฟื้น ลูกสาวก็ได้ใช้ต่อเลย ฮ่วย!
ตายเพราะเมียอยากตาย
นาง เวอร่า เซอแมค สาวชาวกรุงปรากเป็นหนึ่งในสตรีที่บูชาความรักยิ่งชีวิตเธอมีสามีสุดที่รัก ที่อยู่กินกันมาหลายปีซึ่งเธอเองก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างเมียที่ดี รัก ซื่อสัตย์แล้วก็ดูแลโดยหวังว่าจะอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่า กระทั่งตายจากกันไปข้างหนึ่งแต่วันดีคืนดีกระทาชายนายสามีของหล่อนก็ดั๊นนนน ไม่รักดีแอบไปมีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยไว้นอกบ้านแล้วก็รู้สึกเอียนน้ำพริกถ้วย เก่าจนไม่สามารถจะทนกลืนต่อไปได้อีกจึงเอ่ยปากของแยกทางกับภรรยาผู้แสนดี แล้วมีหรือที่เวอร่าจะทานทนได้เมื่อสามีตัวแสบของเธอลากกระเป๋าเดินจากไป
เธอก็ตัดสินใจโดดพรวดจากห้องพักชั้น 3 หวังตายหนีสภาพผัวทิ้งเคราะห์หามยามซวยของผัวอีล่ะครับร่างของเธอพุ่งละลิ่ว ลงมาทับสามีที่กำลังเดินออกจากอาคารโดยบังเอิญเธอเองบาดเจ็บสาหัส แพทย์กรุงปรากช่วยเธอให้รอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิดส่วนสามีเธอ ฤทธิ์น้ำหนักภรรยาที่กระแทกลงไปเต็มๆ ตัว เดี้ยงคาที่ลงไปเซย์ฮัลโหลกับมัจจุราชเรียบร้อยครับ
ตายเพราะกดปิดนาฬิกาปลุก
ถ้า จะจัดอันดับ ผู้ชายที่ขี้เซาที่สุดในนอร์ทแคโรไลนา แล้วล่ะก็ ชาร์ลส์บาร์เกอร์ คงจะติดอันดับ 1ใน 10 เป็นแน่แท้เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ราวปี 1992มันเป็นตอนเช้าที่แสนสบายเสียนี่กระไรชาร์ลส์กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมณ์ อันเป็นสุขแล้วนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมมันก็ดังตี๊ดๆ ขึ้นมา ชาร์ลส์งัวเงียและป่ายมือคลำๆไปใต้หมอนของตัวเองโดยไม่ลืมตาเพื่อจะปิดเสียง นาฬิกานั่นแล้วก็พบวัตถุของแข็งที่ชายหนุ่มเข้าใจว่ามันเป็นนาฬิกา เขากดและเสี้ยววินาทีนั่นเอง... ปัง!!! สิ่งที่เขากดคือไกปืนสมิทเวสสัน .38กระสุนทะลุหมอนเจาะกะโหลกชายหนุ่มขี้เซาคนนี้ แล้วเขาก็ได้หลับตลอดกาลสมใจ
ติดเตียงตาย
เคยดูหนังฝรั่งที่เตียงติดผนังเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากมั้ยครับเตียงที่ว่านี่ มันถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาสำหรับบ้านหรือห้องพักที่มีเนื้อที่จำกัดโดย เฉพาะเวลาจะใช้ก็เหนี่ยวเจ้าเตียงนี้ลงมาจากฝาผนังแล้วก็เอาขอเกี่ยวให้มัน ติดอยู่กับพื้นแล้วเราก็โดดขึ้นไปนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ แล้วพอเช้าจะเก็บก็ปลดขอเจ้าเตียงนี่ก็จะดีดตัวขึ้นไปอยู่บนฝาผนังเหมือน เดิม...นึกออกแล้วใช่มั้ยครับ
คุณยายเอเดเลต มานยาสโก วัย 80 ปีก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่ค่อนข้างจะแคบเธอจึงเลือก ซื้อเจ้าเตียงติดผนังที่ว่ามาเป็นเตียงนอนตัวเองแต่ระหว่างที่คุณยายกำลัง หลับอยู่ดีๆ ขอที่เกี่ยวเตียงกับพื้นมันเกิดชำรุดแล้วก็หลุดออกจากตัวเกี่ยวเตียงหนาหนัก ของคุณยายเลยดีดกลับไปติดผนังอย่างรวดเร็วคุณยายเคราะห์ร้ายถูกเตียงรวบเข้า ไปฟาดกับผนังและเสียชีวิตอยู่ในกล่องเก็บเตียงนั่นเอง
ตายเพราะโลภ
ในปี ค.ศ. 1977 จอห์น สมิธ ถูกรถยนต์ชนในนิวยอร์กโชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เจ้าของรถแนะนำให้ จอห์นแกล้งนอนสลบหน้ารถเพื่อจะได้รับเงินจากประกันความโลภบังตาซะจนมิด จอห์นเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย แต่ขณะรอประกันสิบล้อดันขับมาชนท้าย รถเลยไถลทับตัวนายจอห์น ตายอนาถ(น่าสงสารดีมั้ยครับเนี่ย)
ตายเพราะ (โดนหาว่า) ตายไปแล้ว
อา ร์มานโด คาสซา ต้องปวดเศียรเวียนกะโหลกอย่างที่สุดเนื่องจากรายงานที่ผิดพลาดของรัฐซึ่ง แจ้งหน่วยงานต่างๆว่าเขาตายในอุบัติเหตุเพลิงไหม้ทั้งที่เขายังนั่งทำตา ปริบๆ ดูข่าวตัวเองตายได้อย่างปกติดี ร่างกายครบ 32อยู่หน้าโทรทัศน์ด้วยความงงสุดขีดกับความผิดพลาดที่ไม่น่าจะผิดได้ซึ่ง นั่นทำให้เขามีปัญหาเรื่องการสมัครงาน เรื่องภาษี การประกันสุขภาพการใช้สิทธิประกันสังคม การขอหลักฐานเอกสารมากมายด้วยความเครียดเรื่องที่ถูกหาว่าตาย เขาจึงตัดสินใจกระโดดตึกตายในปี ค.ศ.1991... ตายซะให้หมดเรื่องหมดราว
ตายเพราะมุง
เรื่อง สุดท้ายย้ายมาอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลบ้านเราเท่าไหร่นักฝูงญวนมุงในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม มาออกันเต็มสะพานเพื่อลุ้นดูเหตุการณ์หญิงเวียดนามนางหนึ่งกำลังจะกระโดดน้ำ ตายเมื่อญวนมุงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆสะพานไม้ที่หญิงสาวคิดสั้นยืนอยู่และ เตรียมจะกระโดดก็หักเป๊าะ!เพราะรับน้ำหนักไม่ไหว... ญวนมุงตกน้ำตาย 9 คนส่วนหญิงต้นเหตุปลอดภัยดี... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนจะมุงนอกจากจะต้องดูตาม้าตาเรือแล้ว ควรจะดูสะพานด้วย... นะจ๊ะ
นางจู เลีย คาร์สัน สาวใหญ่วัยกลางคนประชากรแห่งมหานครนิวยอร์กได้ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคหัวใจที่ รุมเร้าร่างกายอันบอบบางของเธอมานานปี จนกระทั่งอาการดังกล่าวกำเริบจนญาติๆและลูกสาวของเธอต้องหามเธอส่งโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้วชาญอย่างใกล้ชิดแต่ดูเหมือนว่ากำลังใจจาก คนรอบข้างไม่ได้ช่วยให้เธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแม้แต่น้อย เธออ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนเช้าวันหนึ่งอาการของเธอเข้าขั้นวิกฤตและตกบ่ายคณะแพทย์ของโรงพยาบาลที่ทำ การรักษาเธอนั้นก็ได้ลงความเห็นเช่นเดียวกันหมดว่าเธอได้สิ้นลมเสียแล้ว
จูลี่ คาร์สัน ลูกสาวของเธอร่ำไห้ต่อการจากไปของมารดาและได้ประกอบพิธีศพให้อย่างเต็มกำลัง (ทรัพย์) ที่มีในกระเป๋าโลงงดงามอันเป็นบ้านหลังสุดท้ายถูกตกแต่งอย่างสมเกียรติและ ระหว่างการประกอบพิธีอยู่นั่นเอง จู่ๆนางจูเลียผู้ล่วงลับก็ลุกพรวดขึ้นจากโลง!!! ผลที่ตามมาน่ะหรือครับ...จูลี่ลูกสาวของเธอ... ช็อกตายล้มตึงอยู่หน้าโลงของแม่ชนิดซื้อมาไม่ได้เสียเปล่าเลยครับ พอแม่ฟื้น ลูกสาวก็ได้ใช้ต่อเลย ฮ่วย!
ตายเพราะเมียอยากตาย
นาง เวอร่า เซอแมค สาวชาวกรุงปรากเป็นหนึ่งในสตรีที่บูชาความรักยิ่งชีวิตเธอมีสามีสุดที่รัก ที่อยู่กินกันมาหลายปีซึ่งเธอเองก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างเมียที่ดี รัก ซื่อสัตย์แล้วก็ดูแลโดยหวังว่าจะอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่า กระทั่งตายจากกันไปข้างหนึ่งแต่วันดีคืนดีกระทาชายนายสามีของหล่อนก็ดั๊นนนน ไม่รักดีแอบไปมีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยไว้นอกบ้านแล้วก็รู้สึกเอียนน้ำพริกถ้วย เก่าจนไม่สามารถจะทนกลืนต่อไปได้อีกจึงเอ่ยปากของแยกทางกับภรรยาผู้แสนดี แล้วมีหรือที่เวอร่าจะทานทนได้เมื่อสามีตัวแสบของเธอลากกระเป๋าเดินจากไป
เธอก็ตัดสินใจโดดพรวดจากห้องพักชั้น 3 หวังตายหนีสภาพผัวทิ้งเคราะห์หามยามซวยของผัวอีล่ะครับร่างของเธอพุ่งละลิ่ว ลงมาทับสามีที่กำลังเดินออกจากอาคารโดยบังเอิญเธอเองบาดเจ็บสาหัส แพทย์กรุงปรากช่วยเธอให้รอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิดส่วนสามีเธอ ฤทธิ์น้ำหนักภรรยาที่กระแทกลงไปเต็มๆ ตัว เดี้ยงคาที่ลงไปเซย์ฮัลโหลกับมัจจุราชเรียบร้อยครับ
ตายเพราะกดปิดนาฬิกาปลุก
ถ้า จะจัดอันดับ ผู้ชายที่ขี้เซาที่สุดในนอร์ทแคโรไลนา แล้วล่ะก็ ชาร์ลส์บาร์เกอร์ คงจะติดอันดับ 1ใน 10 เป็นแน่แท้เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ราวปี 1992มันเป็นตอนเช้าที่แสนสบายเสียนี่กระไรชาร์ลส์กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมณ์ อันเป็นสุขแล้วนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมมันก็ดังตี๊ดๆ ขึ้นมา ชาร์ลส์งัวเงียและป่ายมือคลำๆไปใต้หมอนของตัวเองโดยไม่ลืมตาเพื่อจะปิดเสียง นาฬิกานั่นแล้วก็พบวัตถุของแข็งที่ชายหนุ่มเข้าใจว่ามันเป็นนาฬิกา เขากดและเสี้ยววินาทีนั่นเอง... ปัง!!! สิ่งที่เขากดคือไกปืนสมิทเวสสัน .38กระสุนทะลุหมอนเจาะกะโหลกชายหนุ่มขี้เซาคนนี้ แล้วเขาก็ได้หลับตลอดกาลสมใจ
ติดเตียงตาย
เคยดูหนังฝรั่งที่เตียงติดผนังเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากมั้ยครับเตียงที่ว่านี่ มันถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาสำหรับบ้านหรือห้องพักที่มีเนื้อที่จำกัดโดย เฉพาะเวลาจะใช้ก็เหนี่ยวเจ้าเตียงนี้ลงมาจากฝาผนังแล้วก็เอาขอเกี่ยวให้มัน ติดอยู่กับพื้นแล้วเราก็โดดขึ้นไปนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ แล้วพอเช้าจะเก็บก็ปลดขอเจ้าเตียงนี่ก็จะดีดตัวขึ้นไปอยู่บนฝาผนังเหมือน เดิม...นึกออกแล้วใช่มั้ยครับ
คุณยายเอเดเลต มานยาสโก วัย 80 ปีก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่ค่อนข้างจะแคบเธอจึงเลือก ซื้อเจ้าเตียงติดผนังที่ว่ามาเป็นเตียงนอนตัวเองแต่ระหว่างที่คุณยายกำลัง หลับอยู่ดีๆ ขอที่เกี่ยวเตียงกับพื้นมันเกิดชำรุดแล้วก็หลุดออกจากตัวเกี่ยวเตียงหนาหนัก ของคุณยายเลยดีดกลับไปติดผนังอย่างรวดเร็วคุณยายเคราะห์ร้ายถูกเตียงรวบเข้า ไปฟาดกับผนังและเสียชีวิตอยู่ในกล่องเก็บเตียงนั่นเอง
ตายเพราะโลภ
ในปี ค.ศ. 1977 จอห์น สมิธ ถูกรถยนต์ชนในนิวยอร์กโชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เจ้าของรถแนะนำให้ จอห์นแกล้งนอนสลบหน้ารถเพื่อจะได้รับเงินจากประกันความโลภบังตาซะจนมิด จอห์นเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย แต่ขณะรอประกันสิบล้อดันขับมาชนท้าย รถเลยไถลทับตัวนายจอห์น ตายอนาถ(น่าสงสารดีมั้ยครับเนี่ย)
ตายเพราะ (โดนหาว่า) ตายไปแล้ว
อา ร์มานโด คาสซา ต้องปวดเศียรเวียนกะโหลกอย่างที่สุดเนื่องจากรายงานที่ผิดพลาดของรัฐซึ่ง แจ้งหน่วยงานต่างๆว่าเขาตายในอุบัติเหตุเพลิงไหม้ทั้งที่เขายังนั่งทำตา ปริบๆ ดูข่าวตัวเองตายได้อย่างปกติดี ร่างกายครบ 32อยู่หน้าโทรทัศน์ด้วยความงงสุดขีดกับความผิดพลาดที่ไม่น่าจะผิดได้ซึ่ง นั่นทำให้เขามีปัญหาเรื่องการสมัครงาน เรื่องภาษี การประกันสุขภาพการใช้สิทธิประกันสังคม การขอหลักฐานเอกสารมากมายด้วยความเครียดเรื่องที่ถูกหาว่าตาย เขาจึงตัดสินใจกระโดดตึกตายในปี ค.ศ.1991... ตายซะให้หมดเรื่องหมดราว
ตายเพราะมุง
เรื่อง สุดท้ายย้ายมาอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลบ้านเราเท่าไหร่นักฝูงญวนมุงในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม มาออกันเต็มสะพานเพื่อลุ้นดูเหตุการณ์หญิงเวียดนามนางหนึ่งกำลังจะกระโดดน้ำ ตายเมื่อญวนมุงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆสะพานไม้ที่หญิงสาวคิดสั้นยืนอยู่และ เตรียมจะกระโดดก็หักเป๊าะ!เพราะรับน้ำหนักไม่ไหว... ญวนมุงตกน้ำตาย 9 คนส่วนหญิงต้นเหตุปลอดภัยดี... เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนจะมุงนอกจากจะต้องดูตาม้าตาเรือแล้ว ควรจะดูสะพานด้วย... นะจ๊ะ